นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า “มีกระแสความต้องการ” จากประชาชนในแคนาดา ในการเป็น “รัฐที่ 51” ของอเมริกา… สามารถติดตามต่อได้ที่ :
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวบนแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ว่า “ชาวแคเนเดียนจำนวนมาก” มีความต้องการ “เป็นรัฐที่ 51” ของอเมริกา ซึ่งโดยส่วนตัวเขาสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากจะช่วยส่งเสริมการบูรณาการความร่วมมือในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการผู้อพยพ และการปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะเฟนทานิล
ขณะเดียวกัน ว่าที่ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า แคนาดาจะประหยัดงบประมาณทางทหาร และที่เกี่ยวกับเรื่องภาษีอีกด้วย จากการที่ทรัมป์ยังคงยืนยัน จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา ในอัตรา 25% เมื่อรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 ม.ค. 2568
ขณะเดียวกัน ว่าที่ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า แคนาดาจะประหยัดงบประมาณทางทหาร และที่เกี่ยวกับเรื่องภาษีอีกด้วย จากการที่ทรัมป์ยังคงยืนยัน จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา ในอัตรา 25% เมื่อรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 ม.ค. 2568
แม้ผลสำรวจความคิดเห็นชาวแคเนเดียน โดยสำนักวิจัย “เลเกอร์” เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ปรากฏว่า 13% ของกลุ่มตัวอย่าง เห็นด้วยกับแนวคิดการเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่า เป็นการให้ความเห็นที่ “ไม่ค่อยเข้าท่า” และเสียมารยาทการเมือง ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองภายในของแคนาดา จากการที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กำลังเป็นเสียงข้างน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น นางคริสเทีย ฟรีแลนด์ ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลังของแคนาดา เมื่อต้นสัปดาห์นี้ จากความไม่ลงรอยกันในด้านจุดยืนทางความคิดกับทรูโด ในการกำหนดแนวทางตอบโต้มาตรการภาษี ของรัฐบาลทรัมป์สมัยที่สอง
ทั้งนี้ทั้งนั้น มีรายงานว่า ทรัมป์กล่าว “แบบทีเล่นทีจริง” ถึงเรื่อง “แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ” ระหว่างต้อนรับทรูโด ที่คฤหาสน์มาร์-อา-ลาโก ในรัฐฟลอริดา เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา.
